หยิบใจกันเถอะ! วันนี้ รีวิวดูหนังออนไลน์ มีความสุขมากที่จะแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักภาพยนตร์ที่มาแรงในช่วงนี้ นั่นคือ “The Outsider: ดิ เอาท์ไซเดอร์” เอาท์ไซเดอร์ คือเรื่องราวที่จะให้คุณหลงใหลในโลกของคนที่ไม่เข้ากลุ่มหลัก ภาพยนตร์นี้เต็มไปด้วยการผจญภัยที่ตื่นเต้นและร่วมสมัย มันเป็นความโลคลื่นที่คุณไม่ควรพลาด!
“เดิ อาเอาท์ไซเดอร์” (The Outsider) เป็นภาพยนตร์แนวอาชญากรรมและดราม่าที่เผยแพร่ในปี ค.ศ. 2018 ภาพยนตร์นี้มีการแสดงเนื้อเรื่องในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง และเกิดขึ้นในกรุงโตเกียวของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเนื้อเรื่องหลักเกี่ยวกับการสืบสวนอาชญากรรมที่ซับซ้อนและการสำรวจความเงียบในสังคมญี่ปุ่นหลังจากสงคราม
นักแสดงหลักในภาพยนตร์คือ จาร์ด เลโน (Jared Leto) ซึ่งรับบทเป็นชายชื่อนิคโอ แอง (Nick Lowell) ผู้เข้าร่วมกองทัพอเมริกันในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง หลังจากสงครามเสร็จ เขาพบตัวเองต้องเผชิญกับสังคมที่ปกครองด้วยระบบธรรมชาติและวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรมและความคิดเห็นที่ขัดแย้งกันนำเขาเข้าสู่การสืบสวนเกี่ยวกับการฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในสังคมซึ่งนำมาสู่การเจาะลึกเข้าสู่พื้นที่มืดมิดของอาชญากรรมและความเสี่ยงที่แท้จริง
“เดิ อาเอาท์ไซเดอร์” เน้นการสร้างบรรยากาศที่คลุมเครือและเข้าใจภาพลักษณ์ทางสังคมและวัฒนธรรมของญี่ปุ่นในยุคนั้น นอกจากนี้ยังมีองค์ประกอบของความลึกลับและความเงียบที่น่าสนใจที่เติมเต็มให้กับเรื่องราว ถ้าคุณชื่นชอบภาพยนตร์ที่มีสไตล์หน้าใหม่และเนื้อเรื่องที่ลึกลับ คุณอาจจะสนใจดู “เดิ อาเอาท์ไซเดอร์”
เมื่อปีที่แล้ว เราเคยพบกับการต่อสู้ของกลุ่มคนชาวเมืองจีนใน “The Outsider” แต่ในภาคต่อ “The Outsider: ดิ เอาท์ไซเดอร์” เราจะได้พบกับเรื่องราวของฮาร์ท (เป็นผู้กำกับรองของภาพยนตร์) ที่ต่างจะพาผู้ชมสู่การผจญภัยในอเมริกา! ภาพยนตร์นี้มุ่งเน้นท้าทายเหล่า “เด็กด้อยโอกาส” ในต่างแดนที่เต็มไปด้วยความมืดมนและอันตราย นอกเหนือจากจุดเริ่มต้นที่น่าตื่นเต้น ภาพยนตร์นี้ยังต้องบอกเถอะว่ามันเต็มไปด้วยการเสี่ยงที่ท้าทายทั้งใจเเละจิตใจของตัวละครหลัก เราจะได้พบกับความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างฮาร์ทและหุ่นกระบอกไฟที่มีอัตลักษณ์เป็นสัตว์ประหลาด นอกจากนี้เราจะได้เจอกับพวกมอนสเตอร์ที่น่าสะพรึงกลัว และความรู้สึกของเสียงปังมากกว่าหวาน!
อย่างไรก็ตาม การเลือกแคสติ้งแบบจาเรด เลโน ยังไม่เพียงพอที่จะเติมเต็มบทบาทของเขาที่ว่างเปล่ามาก ซึ่งถูกทิ้งไว้เป็นความลับใหญ่เพื่อเหตุผลที่ไม่รู้เหตุอาจเป็นเรื่องที่ไม่รู้เหตุ พวกเราได้เห็นชิ้นส่วนของเรื่องราวที่บอกว่าเขาออกจากการรับราชการหลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง ด้วยความช่วยเหลืออันไม่ชาญฉลาดของนักแสดงชาวอเมริกันอีกคนที่เป็นทหาร ที่มีบทบาทโดยเอมีล ฮีร์ช ด้วยความผอมและโทนสีเดียว เอาเองโดยเลโนในบทของผู้ชายที่แข็งแกร่งและรังแก ในสังคมอันโหดร้าย หมายถึงที่แต่ก็ไม่มีความแกร่งแรงที่คาดหวัง แม้ว่าเขากำลังทำบางสิ่งที่คล้ายกับไรอัน กอสลิงในภาพยนตร์ของนิโคลัส วินดิง เรฟน์ ใน “Only God Forgives” แต่เมื่อเรื่องเข้าสู่เรื่องราวเกี่ยวกับการสร้างศักยภาพ มันเป็นเพียงฉากผิวเพียงเท่านั้น เช่นวิธีที่เขากลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในการใช้ดาบซามูไร หรือโดยไม่รู้หวังด้วยความโหดเหี้ยมเป็นยาคูซ่า แม้ว่าทักษะภาษาญี่ปุ่นของเขาก็เปลี่ยนไปจากการไม่รู้ภาษาเป็นการสามารถที่จะรับสนทนาได้ด้วยตัวเอง โดยไม่มีความเจริญเติบโตอย่างชัดเจน ในขอบเขตของ “เดิ อาเอาท์ไซเดอร์” มันเหมือนกับนักซูเปอร์ฮีโร่เช่น ด็อกเตอร์ สเตรนจ์ ที่เพียงเรียนรู้พลังของพวกเขาเท่านั้น แทนที่จะทำงานหนักแสดงให้เห็นถึงความพยายามที่ชัดเจน (ตามที่ แองเจลิกา เจด บาสเตียน กล่าวไว้ในบทวิจารณ์ของเธอในภาพยนตร์นั้น)
แต่ถ้านำเลโนออกจากภาพยนตร์ คุณจะได้ภาพยนตร์ที่น้อยน่าสนใจกว่า ภาพยนตร์ที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับยาคูซ่าโดยที่ขาดความเป็นเอกลักษณ์ แนวคิดของแซนด์ฟลิตที่อยู่เบื้องหลังการสร้างโลกอาชญากรรมของเขาคือการนำเสนอหนุ่มชาวญี่ปุ่นที่ใส่สูทและหน้าสะพรึกในห้องที่สีนูน และพาเราผ่านพิธีการของยาคูซ่าที่เป็นที่ไม่ทราบชื่อ แต่การแสดงของนักแสดงที่ไม่ใช่เลโนถูกลดลงเป็นแบบแค่ทนใจอย่างเฉยๆ เนื่องจากความมีประสิทธิภาพของนักแสดงเหมือนอาซาโนะหรือทานากะจะไม่ได้รับบทบาทที่ถูกวิเคราะห์อย่างละเอียดอีกต่อไป และเนื่องจากนั้นล้วนจะไม่สามารถเพิ่มความเร่งด่วนให้กับช่วงที่สามของเรื่องที่เต็มไปด้วยความหลอนและการปะทะกัน พวกเขากลายเป็นคนรับใช้ที่ท้าทายให้กับการพยายามให้ความถูกต้องให้กับภาพยนตร์ที่มีดาราในบทบาทหลัก โดยทุกคน finเพียงแค่แสดงนิยายว่า “เดิ อาเอาท์ไซเดอร์” ไม่ได้เพียงเพราะเป็นเพียงเทียบเท่ากับละครสี่ทัพยาคูซ่าเท่านั้น
เมื่อรวมถึงภาพยนตร์แนวแอ็คชั่นนี้ นักแสดงที่กล้าและหลงใหลในบทเขียนที่ยอดเยี่ยมก็มีมากพอแล้ว The Outsider: ดิ เอาท์ไซเดอร์สร้างมุมมองที่เหนือชั้นให้เรื่องราวการผจญภัยและต่อสู้ในโลกที่เต็มไปด้วยสรรพสิ่งที่ยากที่จะเชื่อว่ามันเกิดขึ้นจริง! ในสรุป เมื่อคุณอยากที่จะสนุกสนานและตื่นเต้นเป็นอย่างมาก The Outsider: ดิ เอาท์ไซเดอร์เป็นภาพยนตร์ที่ไม่ควรพลาดเลย! มันจะพาคุณไปสู่โลกที่ไม่เหมือนใครและท้าทายความเชื่อรื่นเริงที่คุณมีอยู่ในตัว อย่างตื่นเต้นไม่มีที่สิ้นสุด!